“ไม่มีใครจำอันดับตารางลีกวันที่ 12 ม.ค.2021 ได้หรอก”
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เอ่ยออกมาก่อนพา แมนฯ ยูไนเต็ด บุกคว่ำ เบิร์นลีย์ 1-0 แซงนำ ลิเวอร์พูล ขึ้นรั้งตำแหน่งจ่าฝูงของ พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จ
และจะว่าไป คำพูดของเขาก็มีส่วนถูกไม่น้อย หากจะมองย้อนกลับไปถึงอดีตในปีที่ผ่านมาๆซึ่งชี้ให้เห็นว่าเดือนม.ค.ไม่ใช่เดือนที่ตัดสินแชมป์
ลิเวอร์พูล (2016/17)
มันแสดงให้เห็นว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องใช้เวลาเกินกว่าสี่ปีก่อนจะพา ลิเวอร์พูล ประสบความสำเร็จ
ชัยชนะเหนือ แมนฯ ซิตี้ ทีมอันดับสามในรัง 1-0 จากลูกโขกของ จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม ในนาทีที่ 8 ก่อนก้าวเข้าสู่ปีใหม่ปี 2016 ส่งผลให้ หงส์แดง ฉีกหนี เชลซี ของกุนซือ อันโตนิโอ คอนเต้ เป็นหกแต้มในช่วงปลายปี
และจากรูปการณ์ เร้ด แมชีน กับ สิงห์บลูส์ น่าจะได้วัดกันแบบตัวต่อตัวซะด้วยเนื่องจากมีคิวดวลกันในช่วงปลายเดือนม.ค.แต่ก่อนจะถึงวันนั้น ทีมของ คล็อปป์ กลับฟอร์มตกเฉยฉิบ
สุดท้ายแล้วเดือนม.ค.2017 กลายเป็นเดือนที่เลวร้ายของ ลิเวอร์พูล เนื่องจากพวกเขาลงสนามเก้านัด และชนะแค่นัดเดียว แถมยังต้องเตะถ้วย เอฟเอคัพ รอบสามนัดรีเพลย์กับ พลีมัธ ทีมระดับลีกทูด้วยโดยมี ลูคัส เลว่า ช่วยยิงประตูชัยได้แบบเฉียดฉิวในครึ่งแรก
และในที่สุด พวกเขาก็ทำได้แค่เสมอกับ เชลซี ที่ แอนฟิลด์ ก่อนก้าวเข้าสู่เดือนก.พ.จนโดน สิงห์บลูส์ ซึ่งคว้าแชมป์ได้ในท้ายที่สุดหนีห่างในตอนนั้นเป็นสิบแต้ม
แอสตัน วิลล่า (1998/99)
ก่อนที่ อาร์เซน่อล กับ แมนฯ ยูไนเต็ด จะได้ผลัดกันนั่งเก้าอี้จ่าฝูง เป็น แอสตัน วิลล่า ของกุนซือ จอห์น เกรกอรี่ ที่ครองตำแหน่งดังกล่าวในวันขึ้นปีใหม่
แต่แล้ว พวกเขากลับสะกดคำว่าชนะไม่ได้อีกเลยตลอดสิบนัดนับจากวันที่ 9 ม.ค.จนถึงวันที่ 10 เม.ย. และจำต้องจบอันดับหกในท้ายที่สุด
เท่านั้นไม่พอ สิงห์ผงาด ยังเสียโควต้าฟุตบอลยุโรปให้ เวสต์แฮม ของกุนซือ แฮร์รี่ เร้ดแนปป์ ที่คว้าอันดับห้าของตารางไปได้อีกด้วย
เอฟเวอร์ตัน (2013/14)
“เราน่าจะขาดกองหน้าชั้นยอดต่อการลุ้นแย่งแชมป์ พรีเมียร์ลีก” เดวิด มอยส์ เคยเอ่ยถึงทีม เอฟเวอร์ตัน ของเขาเอาไว้ครั้งหนึ่ง และมันทำให้คนที่เข้ามารับงานต่อจากเขาต้องหาทางกำจัดจุดอ่อนตรงนี้
โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ เข้ามารับมรดกทีม ท๊อฟฟี่ ของ มอยส์ และในไม่ช้าเขาก็สร้างทีมที่เล่นเกมรุกขึ้นมาได้อย่างน่าฮือฮา
โรเมลู ลูกากู หัวหอกที่ทีมลูกอมมองหาอยู่นานสอยตาข่ายได้แปดลูกจากเก้านัดแรกใน พรีเมียร์ลีก ของเขานับตั้งแต่ย้ายมาจาก เชลซี แบบยืมตัว
จวบจนปลายเดือนธ.ค. เอฟเวอร์ตัน มีผลงานแพ้แค่เกมเดียวจาก 17 เกม มีแต้มตามหลัง ลิเวอร์พูล ทีมร่วมเมืองแค่สองแต้มเท่านั้น
แต่แล้วพวกเขาก็ฟอร์มตกชนิดกู่ไม่กลับ และจบอันดับห้าอย่างน่าผิดหวังโดยที่ แมนฯ ซิตี้ ครองแชมป์
แบล็คเบิร์น (1997/98)
รอย ฮ็อดจ์สัน หวังพาทีม กุหลาบไฟ คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก เป็นครั้งที่สองในรอบสามปี
แชมป์ลีกปี 1995 จบอันดับ 7 และ 13 ในอีกสองซีซั่นต่อมา ก่อนที่ปู่รอยจะก้าวเข้ามาคุมทีมแทน โทนี่ ปาร์คส์ นายใหญ่ขัดตาทัพ
ฝันของ แบล็คเบิร์น ส่อแววใกล้เป็นจริงอีกหนหลังรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงในวันปีใหม่ตามหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ห้าแต้ม
พวกเขาแพ้แค่สองนัดจาก 21 นัดด้วยพิษสงการถล่มประตูของ คริส ซัตตัน การคุมเกมรับที่ยอดเยี่ยมของ สเตฟาน อ็องโชซ์ นักเตะใหม่ อีกทั้งมี เดเมี่ยน ดัฟฟ์ ดาวรุ่งพุ่งแรงเป็นกำลังสำคัญอีกราย
กระนั้นก็ดี พวกเขาชนะแค่ห้า และแพ้สิบนัดจาก 17 นัดสุดท้าย ทำได้แค่คว้าอันดับลงเล่นถ้วย ยูฟ่า คัพ ในวันสุดท้ายจากการจบอันดับหกโดยมี อาร์เซน่อล เข้าวินเฉือน ผีแดง แค่แต้มเดียว
สเปอร์ส (2011/12)
แฮร์รี่ เร้ดแนปป์ เจอโปรแกรมโหดตั้งแต่ต้นซีซั่นเมื่อต้องคุม ไก่เดือยทอง ฟาดแข้งกับทีมระดับท๊อปทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด (เยือน) , แมนฯ ซิตี้ (เหย้า) , วูล์ฟส์ (เยือน) , ลิเวอร์พูล (เหย้า) , วีแกน (เยือน) และ อาร์เซน่อล (เหย้า)
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาไม่มีแววได้ลุ้นแชมป์ตั้งแต่แรกเมื่อบุกไปแพ้ ผีแดง 3-0 ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในนัดเปิดซีซั่น ต่อด้วยแพ้ แมนฯ ซิตี้ เละเทะ 5-1 ที่ ไวท์ ฮาร์ทเลน และหล่นไปอยู่ในโซนสีแดง
แต่แล้วถัดมา สเปอร์ส ก็ประกาศศักดากำชัย 14 นัด เสมอสามนัด และแพ้นัดเดียวเท่านั้นต่อ สโต๊ค
พร้อมกันนี้ ในจำนวน 18 เกม ไก่เดือยทอง ยังทะลวงประตูได้ 37 ลูก และเสียไปแค่ 12 ลูก กระโดดขึ้นสู่อันดับสามตามหลังสองทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ช่วงกลางเดือนม.ค.
ถึงตรงนี้ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท เริ่มคุยโวว่า “หากเรายังเล่นกันได้แบบนี้ เราก็พร้อมร่วมวงเป็นทีมเต็งลุ้นคว้าแชมป์”
อย่างไรก็ดี เกมต่อมา สเปอร์ส ทำได้แค่เสมอกับ หมาป่า ในรัง 1-1 ก่อนบุกไปแพ้ เรือใบ 3-2 และแผ่วปลายจนสุดท้ายจบซีซั่นในอันดับสี่
ซ้ำร้าย ไก่เดือยทอง ยังอกหักชวดได้โควต้าลงเล่นถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก อีกด้วยเนื่องจาก เชลซี ทีมอันดับหกของตาราง สยบ บาเยิร์น ในนัดชิงดำถ้วยหูใหญ่ จึงได้สิทธิ์ป้องกันแชมป์ ยังผลให้ สเปอร์ส ต้องหล่นไปเล่นถ้วย ยูโรปาลีก
ซันเดอร์แลนด์ (1999/00)