แชมป์ลีกแปดครั้ง , แชมป์ฟุตบอลถ้วยแปดครั้ง และ แชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกสองครั้ง
ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ประสบความสำเร็จเป็นล้นพ้นในอาชีพกุนซือ
และด้วยเหตุที่ยอดโค้ชกาตาลันมีอายุครบ 50 พอดีเมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา จึงถือเป็นเรื่องสมควรอย่างยิ่งที่เราจะฉลองวันเกิดของเขาด้วยการจัดทีมซึ่งประกอบไปด้วยนักเตะที่ดีที่สุดเท่าที่เขาเคยเซ็นสัญญาด้วย
จะมัวรอช้าอยู่ใย ไปยลโฉมทีมรวมดาราของโค้ชเป๊ปกันเลยดีกว่า
มานูเอล นอยเออร์ (ผู้รักษาประตู)
ทีมของ กวาร์ดิโอล่า ต้องการนายทวารที่ใช้เท้าเล่นฟุตบอลได้ดีเสมอ และไม่มีใครคนไหนโดดเด่นไปกว่า นอยเออร์ อีกแล้ว
นอกจากจะเซฟประตูได้อย่างเหนียวหนึบแล้ว มือกาวชาวเมืองเบียร์ยังมีปฏิกริยาที่ว่องไว และพึ่งพาได้อีกด้วย
จึงไม่แปลกที่เขาจะผงาดขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมา
ดานี่ อัลเวส (แบ็คขวา)
ในฐานะนักเตะจอมฟิต และมีเท้าขวาที่หนักหน่วง อัลเวส จึงได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในแบ็คขวาที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาในเกมลูกหนัง
สตาร์ชาวเมืองกาแฟลงเล่นให้เจ้านายชาวสแปนิชไปทั้งสิ้น 208 นัด และได้แชมป์ 14 รายการในระยะเวลาสี่ปีที่ได้ร่วมงานกับ กวาร์ดิโอล่า ในถิ่น คัมป์นู
แว็งซ็องต์ ก็องปานี (เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ)
น่าเสียดายที่ช่วงท้ายของกองหลังทีมชาติเบลเยี่ยมกับ แมนฯ ซิตี้ ถูกคุกคามด้วยอาการบาดเจ็บ
แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ใครสามารถโต้แย้งได้ว่าเขามีส่วนสำคัญในความยิ่งใหญ่ของ เรือใบสีฟ้า
ในฐานะกัปตันทีม เขาพามหาเศรษฐีของอังกฤษซิวแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้สองหนในยุคของ กวาร์ดิโอล่า
การ์เลส ปูโยล (เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ)
แม้จะมีช่วงอาชีพที่ขึ้นๆ ลงๆ แต่ ปูโยล ยังคงเป็นนักเตะชั้นยอดอยู่นั่นเอง
เซ็นเตอร์ฮาล์ฟสแปนิชได้รับบทกัปตันทีม บาร์ซ่า ชุดที่ว่ากันว่าน่าจะยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร
และแน่นอนว่าเพื่อนร่วมทีมสามารถอุ่นใจได้ในเมื่อมีเขาเป็นหัวใจสำคัญของปราการหลัง
ดาวิด อลาบา (แบ็คซ้าย)
ดาวเตะทีมชาติออสเตรียมีคุณสมบัติสุดพิเศษชนิดหาตัวจับได้ยากเนื่องจากเล่นได้ในหลากหลายตำแหน่ง แถมยังโชว์ฟอร์มได้ดีไปซะทั้งหมดอีกด้วย
กระนั้นก็ตามที เป็นตำแหน่งแบ็คซ้ายที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขาได้มากที่สุด
ดาวเตะผิวสีมีอายุแค่ 21 ปีเท่านั้นตอนที่ กวาร์ดิโอล่า เข้ามาคุมทีม บาเยิร์น มิวนิค และถึงวันนี้เราสามารถพูดได้เต็มปากว่าเขาเป็นหนึ่งในยอดฟูลแบ็คของโลก และมันน่าจะเป็นอย่างนี้ต่อไปอย่างน้อยๆก็ในอีกสามปีข้างหน้า
ฟิลิปป์ ลาห์ม (กองกลางตัวรับ)
หลังจากลงเล่นในตำแหน่งฟูลแบ็คมาตั้งแต่แรก ลาห์ม ก็ถูกโยกมารับภาระในแดนกลางหลังจาก กวาร์ดิโอล่า ก้าวเข้ามากุมบังเหียน เสือใต้
และในเวลาไม่นาน เขาก็ผงาดขึ้นเป็นนักเตะที่มีฝีเท้าครบเครื่องมากขึ้นไปอีก
ยิ่งไปกว่านั้น ดาวเตะชาวเมืองเบียร์ยังได้รับคำชมจากกุนซือสกินเฮดด้วยว่า “น่าจะเป็นนักเตะที่ฉลาดที่สุดเท่าที่ผมเคยโค้ชมาในอาชีพของผม”
ชาบี (กองกลาง)
นี่คือหนึ่งในพ่อค้าแข้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลอย่างแท้จริง
นั่นเป็นเพราะว่าจอมทัพชาวเมืองกระทิงถือเป็นคีย์แมนคนสำคัญของ กวาร์ดิโอล่า สมัยที่เขาเป็นกุนซือทีม บาร์ซ่า
มีความสามารถรอบด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบงการเกม และผ่านบอลได้อย่างร้ายกาจ
แม้จะมีรูปร่างที่เล็ก แต่มีความเป็นผู้นำสูงลิบจนทุกคนยอมรับ
อันเดรส อีเนียสต้า (กองกลาง)
ถ้าไม่ใช่ อีเนียสต้า ก็ไม่มีใครที่คู่ควรจะได้อยู่ในตำแหน่งนี้
และที่สำคัญ ไม่มีกองกลางคนไหนรู้ใจ และเข้าขากับ ชาบี มากไปกว่าเพื่อนร่วมชาติ และร่วมสโมสรรายนี้อีกแล้ว
ขณะเดียวกัน เชื่อเหลือเกินว่าเราไม่น่าจะเห็นสองมิดฟิลด์คู่ไหนที่แจ๋วไปกว่าคู่นี้อีกต่อไปเช่นกัน
เควิน เดอ บรอยน์ (กองกลางตัวรุก)
ถูกต้อง กวาร์ดิโอล่า ไม่เคยคุมทีมโดยมีตำแหน่งนี้มาก่อนในชีวิต
แต่ก็นั่นแหละ ยังไงซะทีมของเขาก็จะต้องมีมิดฟิลด์ทีมชาติเบลเยี่ยมรวมอยู่ด้วย
ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะ แมนฯ ซิตี้ ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตาเมื่อมี เดอ บรอยน์ อยู่ในทีม
และจงอย่างเถียงเป็นอันขาดว่าเขาเป็นกองกลางที่ดีที่สุดใน พรีเมียร์ลีก
อีกทั้งเจ้าตัวกำลังพัฒนาผลงานเพื่อทำให้ตัวเองก้าวขึ้นไปเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดเท่าที่ พรีเมียร์ลีก เคยมีมา
ลิโอเนล เมสซี่ (กองหน้า)
มันแหงอยู่แล้วว่าดาวยิงอาร์เจนไตน์เป็นหนึ่งในพ่อค้าแข้งที่เก่งที่สุดบนโลกใบนี้
ยิ่งมีกุนซือสมองเพชรอย่าง กวาร์ดิโอล่า คอยติวเข้ม เมสซี่ จึงปะทุฟอร์มออกมาได้อย่างน่าฮือฮาในซีซั่น 2011/12 ซึ่งเขากระหน่ำประตูได้อย่างบ้าคลั่ง 73 ลูกจาก 60 นัด
จากผลงานที่ว่า มันจึงเป็นการทำลายสถิติที่หลากหลายลงได้อย่างราบคาบ
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (กองหน้า)
ทีมชุดนี้จะสมบูรณ์แบบไม่ได้เป็นอันขาดหากไม่มีชื่อศูนย์หน้าทีมชาติโปแลนด์รวมอยู่ด้วย
ภายใต้การคุมทีมของ กวาร์ดิโอล่า เลวานดอฟสกี้ ยิงประตูได้ 67 ลูกจากการลงสนามให้ บาเยิร์น มิวนิค 100 นัด
เท่านั้นไม่พอ นับวันดาวซัลโวทีม เสือใต้ รังแต่จะแผลงฤทธิ์ได้อย่างร้ายกาจมากขึ้นทุกทีอีกด้วย
ตัวสำรอง
เอแดร์ซอน (ผู้รักษาประตู)
เมื่อว่ากันถึงนายทวารที่ใช้เท้าได้ดี เอแดร์ซอน ย่อมเป็นอีกชื่อที่ทุกคนนึกถึง
เป็นที่ระบุว่านายทวารทีม เรือใบสีฟ้า สามารถใช้เท้าจับบอลโยนยาวระยะ 70 หลาได้อย่างนุ่มนวลชนิดที่ไม่มีนายด่ายตาข่ายคนไหนทำได้
พร้อมกันนี้ สตาร์ชาวเมืองกาแฟยังเซฟประตูได้ดี และมีปฏิกริยาที่ว่องไวในระดับหัวแถวเช่นกัน
เคราร์ด ปิเก้ (เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ)
แม้จะไม่ค่อยได้ลงเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด มากนัก แต่ กวาร์ดิโอล่า แสดงให้เห็นว่าเขาเชื่อมั่นในตัวกองหลังสแปนิช
ด้วยเหตุนี้ นายใหญ่กาตาลันจึงดึง ปิเก้ กลับสู่ทีม บาร์เซโลน่า และในไม่ช้าดาวเตะร่างโย่งก็ตอบแทนความไว้วางใจของยอดกุนซือได้ด้วยการร่ายลีลาในแนวรับได้อย่างแข็งแกร่ง
เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ (กองกลางตัวรับ)
กวาร์ดิโอล่า มอบโอกาสประเดิมสนามให้กับนักเตะหลายราย
แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่มีใครที่โดดเด่นไปกว่ากองกลางสแปนิช
และแน่นอนว่า บุสเก็ตส์ กลายเป็นขาประจำในแดนกลางของ บาร์ซ่า ได้อย่างยาวนาน
อาร์เยน ร็อบเบน (ปีกขวา)