ฤดูกาล 2015-16 เลสเตอร์ ซิตี้ สร้างปรากฏการณ์ทีมรองบ่อนในอัตรา 2000-1 ที่สามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้ยิ่งกว่าเหนือกว่าความคาดหมาย
ที่น่าทึ่งยิ่งกว่านั้นก็คือฤดูกาลก่อนหน้านั้น ทีมจิ้งจอกยังต้องกระเสือกกระสนหนีตกชั้นอยู่เลย แต่ เคลาดิโอ รานิเอรี่ ก็สามารถนำทีมจากมิดแลนด์ปิดฤดูกาลฟาดแชมป์ โดยมีคะแนนมากกว่า อาร์เซน่อล ที่ตามห่างๆ ในอันดับที่สองถึง 10 แต้ม
5 ปีให้หลัง เลสเตอร์ กลับมาเป็นทีมที่มีลุ้นคว้าแชมป์อีกครั้ง หลังจากที่หักคอสิงโตน้ำเงินครามที่ลงทุนไปร่วม 200 ล้านปอนด์ เป็นชัยชนะนัดที่ 12 ในครึ่งฤดูกาลที่ส่งให้พวกเขาขึ้นไปอยู่บนหัวตาราง
เรื่องนี้ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า ทีมชุดปัจจุบันนี้ดีกว่าชุดที่ได้แชมป์หรือเปล่า?
แกรี่ ลินิเก้อร์ อดีตศูนย์หน้าที่เป็นสัญลักษณ์ของทีมจิ้งจอกตลอดกาล ชั่งใจกับคำตอบของตัวเองก่อนจะบอกว่า ทีมชุดนี้ดีกว่า เนื่องจากทีมมีความหลากหลายกว่า มีการพลิกแพลงมากกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่าทีมนี้จะได้แชมป์ เนื่องจากคู่แข่งมีหลายทีม และความแข็งแกร่งอย่างมาก
เลสเตอร์ เมื่อ 5 ปีก่อนได้แชมป์ แต่ชุดนี้ดีกว่า ทว่าทีมที่ดีที่สุดคือชุดผสมของสองทีมนี้
จัดผู้เล่น 11 ตัวจริงของทีมจิ้งจอกที่หากเป็นไปได้ ทีมนี้มีโอกาสถึงแชมป์มากกว่า เพราะแกร่งทั่วแผ่นจริงๆ
ผู้รักษาประตู : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล
เรียกว่าไม่ใช่ตัวเลือกดีกว่า เพราะคือนายทวารที่อยู่กับทีมชุดแชมป์ครั้งนั้น เขาเป็นหนึ่งในเจ็ดนักเตะชุดนั้นที่ยังอยู่กับทีมมาจนถึงตอนนี้ และเป็นหนึ่งในสองของตัวจริงชุดแชมป์ ตอนนี้เขาเล่นให้ เลสเตอร์ ไปแล้วมากกว่า 400 เกม
แบ๊กขวา : ทิโมธีย์ คาสตานเญ่
การขาดหายไปของ ริคาร์โด้ เปไรร่า ทำให้ แบรนดอน ร็อดเจอร์ส ต้องหาแบ๊กตัวใหม่ แล้วทีมแมวมองของจิ้งจอกก็ประสบความสำเร็จในการเสาะหานักเตะใหม่อีกครั้ง เขายิงประตูได้ในเกมแรกที่ลงสนาม และยังมีแอสซิสต์อีก 2 ครั้ง แม้ว่าจะพลาดไปหลายเกมเพราะอาการบาดเจ็บ แต่ก็ยังโดดเด่นเป็นสง่าน่าเลื่อมใส
เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตำแหน่งนี้เป็นของ แดนนี่ ซิมป์สัน แต่เมื่อเทียบกันที่คุณภาพแล้ว คาสตานเญ่ ดีกว่า
เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ : เวสต์ลี่ย์ โฟฟาน่า
ซื้อใหม่มาจาก แซงต์ เอเตียง เมื่อช่วงซัมเมอร์นี้เองด้วยค่าตัวที่อาจขยับไปถึง 40 ล้านยูโรตามเงื่อนไข ด้วยอายุเพียงแค่ 21 ปีเท่านั้น แต่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้ และเป็นหนึ่งในกองหลังดาวรุ่งที่โดดเด่นที่สุดในลีก
เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ : เวส มอร์แกน
เอาสองเวสมายืนคู่กันเป็นกองหลังตัวกลาง มอร์แกน ยืนคู่กับ โรเบิร์ต ฮูธ ในตอนนั้น ตลอดทั้งฤดูกาลทีมจิ้งจอกเสียไปเพียง 36 ประตู มีเพียงแค่ สเปอร์ส และ แมนฯ ยูไนเต็ด เท่านั้นที่โดนเจาะไข่แดงมากกว่า
แบ๊กซ้าย : คริสเตียน ฟุคส์
ในชุดปัจจุบันเราได้เห็นการเล่นที่เสมอต้นเสมอปลายของ เจมส์ จัสติน แต่เทียบกันแล้วยังเป็นรองซ้ายธรรมชาติของ ฟุคส์
มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ รานิเอรี่ จับกองหลังออสเตรียคนนี้ไปนั่งราว 2 สัปดาห์ แต่พอได้กลับมาเขาก็ยึดตำแหน่งเป็นการถาวร เขามีสถิติการเข้าแท็คเกิ้ล และอินเตอร์เซ็ปอยู่ในระดับต้นๆ ของพรีเมียร์ลีก และแอสซิสต์ไป 4 ครั้งตลอดฤดูกาล
มิดฟิลด์ตัวรับ : เอ็นโกโล่ ก็องเต้
เป็นเรื่องลำบากใจที่ต้องตัด วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ ออกจากทีม แต่ถ้าไปวัดกับ ก็องเต้ ก็คงต้องถอยให้มิดฟิลด์ฝรั่งเศส
ตอนย้ายมาร่วมทีมเขามีค่าตัวแค่ 5 ล้านปอนด์เท่านั้น ถือเป็นการซื้อที่คุ้มค่าที่สุด เอาแค่พลังของเขาที่วิ่งตลอดทั้งเกมก็คุ้มแล้ว ก็องเต้ วิ่งไล่แย่งบอลได้ตลอดทั้งเกมจนได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ พีเอฟเอ แต่เขากลับไปได้รางวัลนี้ในฤดูกาลต่อมาที่ย้ายไปอยู่กับ เชลซี
มิดฟิลด์ตัวกลาง : ยูริ เทเลมานส์
ตลอดระยะเวลาที่อยู่ภายใต้การคุมทีมของ ร็อดเจอร์ส มิดฟิลด์เบลเยี่ยมคนนี้ได้ยกระดับตัวเองขึ้นมาเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์มาแรง การครองบอลดีมาก ยืนตำแหน่งดี ยิงประตูได้ สร้างโอกาส และแอสซิสต์ได้ อดีตนักเตะ โมนาโก คนนี้เป็นอีกคนที่ เลสเตอร์ ซื้อมาอย่างคุ้มค่า
มิดฟิลด์ตัวกลาง : เจมส์ แม็ดดิสัน
หลังจากที่ซื้อมาจาก นอริช เขาก็กลายเป็นกำลังหลักของ เลสเตอร์ หลายต่อหลายครั้งที่เขาแสดงให้เห็นถึงการเล่นที่วูบวาบ แต่ไม่ค่อยสม่ำเสมอเท่านั้น
หลังจากที่ปรับตัวได้เข้าที่เข้าทาง เขาก็ติดทีมชาติอังกฤษ และใน 8 เกมหลังสุดกับสโมสร เขายิงไป 5 ประตู และแอสซิสต์อีก 2 ซึ่งหากรักษามาตรฐานไว้ได้ รับประกันเลยว่าเขาจะติดทีมชาติชุดยูโร 2020 อย่างแน่นอน
ปีกขวา : ริยาด มาห์เรซ
ในฤดูกาลที่ได้แชมป์ คงยังจำกันได้ว่าเราเพลิดเพลินกับลีลาริมเส้นของ มาห์เรซ ขนาดไหน มิดฟิลด์อัลจีเรียยิงไป 17 ประตู ทำอีก 11 แอสซิสต์ แล้วก็รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ พีเอฟเอ
ศูนย์หน้า : เจมี่ วาร์ดี้
นี่เป็นอีกคนที่ไม่ต้องคิดให้เสียเวลา เขาเป็นตัวหลักในชุดแชมป์ที่ยังรักษามาตรฐานมาได้จนถึงวันนี้ อดีตศูนย์หน้านอกลีกเข้ามาสร้างปรากฏการณ์ในพรีเมียร์ลีก ยิงไปถึง 24 ประตูในฤดูกาลนั้น จนถึงวันนี้ ยังไม่มีวี่แววว่าระดับการเล่นของเขาจะตกลงไปเลย และเมื่อฤดูกาลที่แล้วก็เพิ่งได้เป็นดาวซัลโวสูงสุดของพรีเมียร์ลีกด้วยสถิติ 23 ประตู
ปีกซ้าย : ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์
มาร์ค อัลไบรท์ตัน อาจรู้สึกว่าตัวเองโชคร้ายที่ต้องหลุดจากทีม แล้วเสียตำแหน่งให้กับนักเตะที่อยู่ในทีมชุดที่กำลังไล่ล่าแชมป์
อย่างไรก็ตาม เราต้องยอมรับว่า บาร์นส์ ทำได้ดีมากในฤดูกาลนี้ ฃ ด้วยฟอร์มการเล่นระดับสูงหลายต่อหลายครั้ง ในการเป็นตัวจริง 15 เกมเขายิงไป 6 ประตู และมั่นใจได้ว่าประตูทีมชาติอังกฤษกำลังเปิดรอรับเขาแล้ว
ถ้าชุดนี้กลับมารวมกันได้ บางทีโอกาสที่จะได้แชมป์ก็จะมากขึ้นด้วย